Connect with us

News

ในหลวง-พระราชินี เสด็จฯส่วนพระองค์ ทรงเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บ และพระราชทานขวัญกำลังใจ แก่ผู้ได้รับผลกระทบ ทรงเศร้าสลดใจ ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

Published

on

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี
ทรงห่วงใยและทรงเสียพระราชหฤทัยต่อเหตุการณ์ทำร้ายเด็กและประชาชน
ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยสวรรค์ อำเภอนากลาง
จังหวัดหนองบัวลำภู เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2565 ซึ่งทำให้มีผู้บาดเจ็บ
และเสียชีวิตทั้งเด็กและผู้ใหญ่

ทรงรับทราบและทรงเข้าพระราชหฤทัยถึงความทุกข์ของครอบครัวผู้สูญเสีย
หลังจากที่เสร็จจากการทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในวันนี้
จึงมีพระราชประสงค์ที่จะเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมผู้บาดเจ็บ
พร้อมกับพระราชทานขวัญกำลังใจแก่ครอบครัวผู้สูญเสีย
เป็นการส่วนพระองค์

วันนี้ (7 ต.ค.) เมื่อเวลา 18.44 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง
จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังท่าอากาศยานทหาร ดอนเมือง
เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บ
จากเหตุการณ์ทำร้ายเด็กและประชาชนที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
องค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยสวรรค์ อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู
ณ โรงพยาบาลหนองบัวลำภู อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู
และโรงพยาบาลอุดรธานี อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี
เป็นการส่วนพระองค์

โดยเมื่อเวลา 21.15 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี
เสด็จฯโดยรถยนต์พระที่นั่งถึงโรงพยาบาลหนองบัวลำภู อำเภอเมืองหนองบัวลำภู
จังหวัดหนองบัวลำภู นายสุวิทย์ จันทร์หวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู
รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู และนายแพทย์ไพฑูรย์ ใบประเสริฐ
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนองบัวลำภู เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ
แล้วเสด็จขึ้นห้องบรรยายสรุป พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายสุวิทย์ จันทร์หวร
รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู
กราบบังคมทูลรายงานสรุปเหตุการณ์ ฯ เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พระราชทานกระเช้าแก่นายสุวิทย์ จันทร์หวร เป็นส่วนรวมเพื่อเชิญไปมอบแก่
ผู้บาดเจ็บทุกคนจากเหตุการณ์ดังกล่าว

จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี
เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลจำนวน 4 ราย
พร้อมทรงซักถามถึงอาการผู้บาดเจ็บจากแพทย์เจ้าของไข้ด้วยความห่วงใย
และสนพระราชหฤทัยในการรักษาผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพ
และพระราชทานพระราชกำลังใจแก่ญาติผู้ได้รับบาดเจ็บ

เสร็จแล้วเสด็จฯไปยังชั้น1 ตึกศัลยกรรมและตึกผ่าตัดเพื่อพระราชทานกำลังใจ
แก่ครอบครัวผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ครั้งนี้ พร้อมทั้งทรงมีพระราชปฎิสันถารให้กำลังใจ
และให้เชื่อมั่นในความร่วมมือของเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง จะร่วมกันเพื่อให้ฟื้น
กลับมาใช้ชีวิตปกติด้วยกำลังใจที่เข็มแข็งอีกครั้ง ดังความว่า

“รู้สึกเสียใจเศร้าสลดใจมาก ที่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ช่วงเวลาแห่งความรู้สึก
เศร้าโศกเสียใจก็ไม่ทราบจะอธิบายอย่างไรให้เข้าใจ ก็เป็นความรู้สึกร่วม
เป็นเหตุที่ไม่ดีเกิดขึ้น ถ้าเกิดมีอะไรเดือดร้อนลำบาก ให้ช่วยเหลือให้ดูแล
ขอแสดงความเสียใจและคงไม่มีคำไหนมาแทนความเสียใจได้
ก็ขอให้กำลังใจพวกเราเข้มแข็ง เพื่อให้วิญญาณน้องๆเขาสบายใจ
เราก็จะทำพิธีการทำบุญสวดมนต์ เพื่ออุทิศส่วนบุญกุศลให้กับผู้ที่จากไปแล้ว
ก็เป็นขวัญและกำลังใจให้ทุกคน เราก็เสียใจด้วยมากเราจะต้องทำยังไง
ตอนนี้เราต้องทำอะไรให้ดีที่สุดเป็นกำลังใจให้ทุกคนทุกคน”

เมื่อสมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนิน
ไปยังโรงพยาบาลอุดรธานี อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี

ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี
เสด็จพระราชดำเนินถึงโรงพยาบาลอุดรธานี อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี
เสด็จพระราชดำเนินไปยังตึกศัลยกรรม โรงพยาบาลอุดรธานี
พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายแพทย์ สุมน ตั้งสุนทรวิวัฒน์
รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลอุดรธานี รักษาราชการแทนผู้อำนวยการโรงพยาบาลอุดรธานี
กราบบังคมทูลรายงานผลการรักษาพยาบาลของเด็กชาย กฤษกร เรืองเจริญ อายุ 3 ขวบ
ผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ ฯ

แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมและพระราชทานกระเช้าของเยี่ยม แก่บิดาและมารดา
ของเด็กชายกฤษกร ฯ สมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่ง
เสด็จพระราชดำเนินไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 23 จังหวัดอุดรธานี
เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพมหานคร

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี
ทรงห่วงใยและทรงติดตามเหตุการณ์ทำร้ายเด็กและประชาชน
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี
พร้อมด้วยพลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี พลอากาศเอก จอม รุ่งสว่าง องคมนตรี
และนายอำพน กิตติอำพน องคมนตรี ไปเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บทุกรายโดยทันที
เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2565 พร้อมกับเชิญพระราชกระแส ทรงห่วงใยไปกล่าวแก่ครอบครัว
ของผู้ได้รับบาดเจ็บ และพระราชทานกำลังใจกับทรงชื่นชมเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกฝ่าย
ณ โรงพยาบาลหนองบัวลำภู อำเภอเมืองหนองบัวลำภู และโรงพยาบาลนากลาง อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู กับโรงพยาบาลอุดรธานี อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี

ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม รับผู้บาดเจ็บไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์
และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมรับศพผู้เสียชีวิตไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์
และพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษด้วย

ทั้งนี้เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 6 ตุลาคม พ.ศ.2565 เวลา 12.30 น.ได้รับแจ้งเหตุจาก
สถานีตำรวจภูธรนากลาง ว่ามีอดีตข้าราชการตำรวจ (สถานีตำรวจภูธรนาวัง)
ก่อเหตุกราดยิง ณ องค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยสวรรค์ เสียชีวิตจำนวน 2 ราย
ต่อมาได้นำปืนและมีดก่อเหตุในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยสวรรค์
เสียชีวิตจำนวน 24 ราย จากนั้นผู้ก่อเหตุได้เดินทางกลับบ้าน ระหว่างทางขับรถไล่ชนผู้คน
รวมทั้งใช้ปืนยิง เสียชีวิตจำนวน 9 ราย เมื่อกลับถึงบ้านได้นำรถยนต์ไปจอดบริเวณหน้าบ้าน
เพื่อทำการเผา หลังจากนั้นได้เข้าบ้านทำการยิงลูกพร้อมภรรยาและปิดชีพตัวเองในเวลาต่อมา

เวลา 17.00 น. มีรายงานผู้เสียชีวิต 37 ราย (รวมผู้ก่อเหตุ) บาดเจ็บ 10 ราย ซึ่งรักษาตัว
อยู่ที่โรงพยาบาลหนองบัวลำภู 5 ราย โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี 2 ราย
สำหรับผู้บาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 3 ราย แพทย์วินิจฉัยให้กลับบ้านได้

นางวาสนา โพธิพล พสกนิกรรายหนึ่งที่สูญเสียทั้งลูกสาว1 คน และหลานชาย 3 คน
ญาติสนิทอีก 2 คนจากเหตุการณ์ครั้งนี้ กล่าวด้วยน้ำเสียงสะอื้นว่า เป็นการสูญเสีย
ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต แต่ก็รู้สึกดีใจ ที่ทราบว่าในหลวงและพระราชินี เสด็จฯมาทรงเยี่ยม
ครอบครัวในวันนี้ ทำให้เธอและครอบครัวมีกำลังใจที่จะลุกขึ้นมาต่อสู้กับพายุร้ายในครั้งนี้
เพราะอย่างน้อยที่สุดในหลวง ก็มิเคยทอดทิ้งพสกนิกรของพระองค์เลย
แม้แต่ในยามที่ประชาชนทุกข์ใจแสนสาหัญในชีวิต

นางมัจฉา วรรณี พสกนิกรบ้านหนองกุงศรี อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู
ผู้สูญเสียหลานชาย 2 คนจากเหตุการณ์ครั้งนี้ เธอกล่าวว่า บนความ
เจ็บปวดและเสียใจคือความอบอุ่นใจที่ในหลวงและพระราชินี เสด็จฯมาทรงเยี่ยม
เปรียบดังพวกเธอเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน และจะรีบเข้มแข็ง
ดำเนินชีวิตต่อไปให้สมกับความห่วงใย ที่ทั้งสองพระองค์มอบให้

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: