เมื่อนางงามในยุคเสรี ไม่ได้แข่งขันกันด้วยวความสวย แต่แข่งขันกันด้วยทัศนคติ
ช่วงเวลาของเหล่าแฟนนางงามกำลังมาถึง เมื่อเวทีประชันขาอ่อนระดับโลก Miss Universe Thailand 2020 ที่เฟ้นหาตัวแทนสาวไทยเพื่อชิงมงกฎ Miss Universe 2020 ได้คัดเลือกสาวๆ 30 คน เข้าเก็บตัวเพื่อเตรียมประกวด
แต่ไม่ทันจะได้เก็บตัวเวทีก็ลุกเป็นไฟ เมื่อการประกวดในปีนี้โหดๆตั้งแต่รอบออดิชั่น เพราะเหล่าสาวงามต้องสัมภาษณ์และตอบคำถามจากคีย์เวิร์ดที่สุ่มได้ จากกรรมการทั้ง 17 คน เรียกว่าเทียบไหวพริบและความสามารถในการตอบคำถามกันให้เห็นไปเลย แต่ที่บอกว่าเวทีลุกเป็นไฟเนื่องจากว่า ตัวเต็งที่เหล่ากรูรูกางไว้กลับพลิกโผเมื่อม้ามืดสามารถตอบคำถามคณะกรรมการได้อย่างชาญฉลาดและโดดเด่นจนคว้าสิทธิ์เข้ารอบ 30 คนโดยอัตโนมัติ
โดยคนแรกที่อยากจะแนะนำคือ เอมมี่ คิม ซอเยอร์ (Emmy Kym Sawyer) สาวงามอายุเพียง 19 ปี นับว่าอายุน้อยที่สุดในการประกวด ด้วยลุคที่สดใส แต่ทัศนคติสุดปัง ที่ทำเอาโลกออนไลน์ต่างปรบมือให้ เมื่อถูกตั้งคำถามถึงเรื่อง เงินใต้โต๊ะ หากคนในครอบครัวทําผิดกฎหมายจะทํายังไง และเอมมี่เธอก็สามารถตอบได้ดีโดยมีผู้แปลไว้ว่า
“เอมมี่ให้ความสำคัญกับเรื่องความยุติธรรม (Fairness) และเงินใต้โต๊ะก็เป็นหนึ่งในรูปแบบของความอยุติธรรม ในการอยู่ร่วมกันในสังคมเราทุกคนมีความเสมอภาคกัน และมีสิทธิเท่าเทียมกัน เงินใต้โต๊ะจึงเป็นทางลัด (ไปสู่การได้มาในสิ่งหนึ่ง – shortcut) ที่พวกเราต้องกำจัดให้หมดไป ทุกคนต้องมีความสุขกับสิ่งที่เขาเป็น และตามหาความฝันจนสำเร็จได้ด้วยตัวของพวกเขาเองและมั่นใจในตัวเอง คุณไม่ต้องไปติดสินบนใครเลยถ้าคุณมั่นใจในตัวเอง ตราบใดที่คุณมีความมั่นใจในตัวเอง ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปได้”
เรียกได้ว่าเด็กแต่เด็ดจริงๆ จนเธอสามารถคว้าคะแนนโหวตให้ผ่านเข้ารอบจากคณะกรรมการทั้ง 17 คน
ส่วนอีกคนคือ “เฌอเอม-ชญาธนุส ศรทัตต์” นางแบบสาวสุดมั่น ที่โลดแล่นอยู่ในวงการนานแบบระดับอินเตอร์ แม้ว่าเธอจะมีข้อบกพร่องเรื่องรูปปากที่ผิดปกติและการสูญเสียฟันหน้าจากอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันในวัยเด็ก จนมีผลต่อการออกเสียงในการพูด แต่เธอก็ฝึกฝนและก้ามข้ามอุปสรรคจนทำตามความฝันของตัวเองได้ เฌอเอมมี Power ในการตอบคำถามต่าง ๆ ได้เฉียบคมและมีการใช้ภาษาที่สวย ดูมีความมั่นใจ ช่วยสร้างความประทับใจให้กรรมการได้อย่างดี เรียกได้ว่า “ยิ่งพูดยิ่งสวย” เลยทีเดียว
การตอบคำถามต่างๆ ซึ่งเฌอเอม ก็สามารถทำได้ดี เช่น เมื่อถามคำถาม ว่าจะเปลี่ยนใจลงคะแนนเสียงนักการเมือง หรือไม่ถ้าพบว่า นอกใจภรรยา ว่า เปลี่ยนใจอย่างแน่นอน เพราะความซื่อสัตย์ เป็นพื้นฐานของชีวิตคู่ ถ้าไม่ซื่อสัตย์กับเรื่องที่สำคัญที่สุดในชีวิต มันยากที่จะซื่อสัตย์ต่อคนที่เราจำเป็นต้องรับใช้ และเป็นหัวใจของนักการเมือง คือ รับใช้ประชาชน เกียรติภูมิของนักการเมืองคือการรับใช้ประชาชน
คำตอบของเธอจากทุกๆคำถามถูกแชร์สะพัดในโลกออนไลน์
ล่าสุดวันนี้ (14 ก.ย. 63) รอบเปิดตัวผู้เข้ารอบ 30 คนสุดท้าย มีช่วงที่สาวงามต้องขึ้นมาพูดถึงคีย์เวิร์ดที่ตัวเองได้รับ ทั้งสองสาวก็ได้คู่กับและได้พูดคีย์เวิร์ดที่ตรงข้ามกัน โดยเฌอเอมเป็นคนได้พูดก่อนในคีเวิร์ดว่า “การมีคู่ครองเพียงคนเดียว” โดยเฌอเอมได้พูดว่า
“ประเทศเราก็เป็น Monogamy การมีคู่ครองคนเดียว ซึ่งยังมีหลายศาสนาที่ยังมีคู่ครองหลายคน ทีนี้เอมอยากจะบอกว่า การมีคู่ครองกี่คนก็ตาม มันเป็นพื้นฐานของการให้เกียรติและคุณโอเคกับคู่ของคุณหรือเปล่า ถ้าคุณไม่มีทัศนติอย่างเดียวกันในการใช้ชีวิตคู่ การให้เกียรติการให้เวลากับคนคนหนึ่งหรืออาจจะหลายคน ถ้าคุณแบ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ เอมก็ให้คุณคิดเอาเองค่ะว่ามันผิดหรือถูก เพราะฉนั้น การมีคู่ครองคนเดียวก็ดีนะคะ ถ้าคุณอยู่ในศาสนาที่มีหลายคน เอมก็ไม่ขอพูดอะไรกับเรื่องนี้ค่ะ เพราะสุดท้ายแล้วมันอยู่ในใจของคุณเอง ว่าคุณยึดถือในอะไร”
ส่วนเอมมี่ก็ได้คีย์เวิร์ดว่า “การมีคู่ครองหลายคน” โดยเอมมี่ได้ตอบเป็นภาษาอังกฤษ เราจะขอแปลคร่าวๆให้ฟังว่า
“ฉันเชื่อว่าในยุคสมัยนี้ เราทุกคนควรสามารถรักคนที่อยากรักได้ และกี่คนก็ย่อมได้ เราไม่ควรมีข้อจำกัดว่าเราจะรักคนได้กี่คน และฉันยังคิดว่ายังนี้ยังเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนในประเทศไทย เพราะฉนั้นเราควรพูดในมุมกว้าง เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของมนุษย์และคนรอบตัวเรา ถ้าคุณรู้สึกว่าควรมีคู่ครองคนเดียว หรือคู่ครองหลายคนนั่นเป็นสิทธิ์ของคุณ เรามีสิทธิ์ที่จะเชื่อและรักใครสักคนที่เรารัก”
นี่เป็นตำตอบของทั้งสองคนเมื่อยืนประชันกันบนเวที เรียกได้ว่าเป็นมิตรใหม่ของการประกวดนางงามที่เป็นยุคเสรี ความเท่าเทียม ความงามที่ไม่มีข้อจำกัด แข่งกันกันด้วยมันสมอง ไหวพริบ ความคิด และทัศนคติอย่างแท้จริง
You must be logged in to post a comment Login