สถานการณ์ของผู้ที่ติดเชื้อโควิด -19 ที่ประเทศอิตาลี จนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลงเลยนะครับ โดยตัวเลขล่าสุดวันนี้ ( วันที่ 29 มีนาคม 2563 ) มีผู้ติดเชื้อไปแล้วทั้งสิ้นรวม 92,472 คน โดยในจำนวนนี้ มีผู้หายป่วย 12,384 คน เสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 10,023 คน และมีผู้เสียชีวิตวันนี้วันเดียวถึง 889 คน โดย 1 ในนั้นคือคนไทย ได้แก่คุณภุมรา สุจริตกุล ซึ่งเพิ่งเสียชีวิตเมื่อวานนี้ โดยคุณภุมรา ถือเป็นคนไทยคนที่ 3 ในอิตาลี ที่เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 ครับ ( สำหรับคนไทย 2 ท่านที่เสียชีวิตก่อนหน้านี้ ได้แก่คุณเยาว์ , ลุงโทน ) ทีมข่าวโตโจ้นิวส์ ต้องขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของคนไทยทั้ง 3 ท่านนี้ด้วยนะครับ
และทีมข่าวโตโจ้นิวส์ ก็ได้ขออนุญาตสัมภาษณ์ญาติของผู้เสียชีวิตท่านแรก ( คุณเยาว์ ) ซึ่งก็คือพี่นุช โดยตอนนี้พี่นุชยังอยู่ที่แคว้นลอมบาร์เดีย ประเทศอิตาลีครับ ( พี่นุชอายุ 60 ปี คือหลานของคุณเยาว์ อายุ 80 ปี คนไทยคนแรกที่เสียชีวิตที่อิตาลีจากโรคโควิด-19 เมื่อวันที่ 24 มีนาคม )
>>> ไม่ทราบพี่เยาว์เริ่มติดโควิด-19 ได้อย่างไรครับ
จริงๆต้องบอกว่าตอนแรกที่เข้าโรงพยาบาล คุณอาไปด้วยอาการท้องเสียค่ะ ก็เข้าไปรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลแถวบ้านเขา ( คุณอาเยาว์ พักอยู่ใกล้โรงพยาบาลที่มีข่าวว่าสัปดาห์เดียว พบผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 ถึง 79 คน ) ก็พักอยู่ที่นี่ได้ประมาณ 3 วัน คุณอาบอกว่าไม่สามารถทานอะไรได้เลย หมอที่นี่ก็เลยให้ย้ายโรงพยาบาล ไปที่เมืองมิลาน ก็มีรถพยาบาลของที่เมืองมิลานมารับ ตอนนั้นผลตรวจเลือด ก็ยังไม่ได้ติดโควิด-19 นะคะ
>>> แล้วตอนที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลในเมืองมิลาน เป็นอย่างไรบ้างครับ
ต้องบอกว่าที่โรงพยาบาลในเมืองมิลาน ก็มีคนติดโควิด-19 กันเยอะค่ะ เปรียบเทียบได้ว่าคน 100 คน เป็นโควิด-19 ประมาณ 95 คนได้เลย อีก 5 คน คือผู้ที่ป่วยด้วยโรคอื่น แต่พอคุณอาย้ายมาที่นี่ เขาถ่ายวิดีโอส่งมาให้เรา คือเขาดูสดชื่นขึ้นและบอกทานข้าวได้แล้ว เราก็ดีใจกัน เขาบอกวันพฤหัสคุณหมอก็ให้กลับได้ ( วันพฤหัสคือวันที่ 25 มีนาคมที่เสียชีวิต )
>>> ตั้งแต่คุณอาเยาว์เข้าโรงพยาบาล ติดต่อกันได้ทางไหนบ้าง
เรื่องเศร้าที่สุดของผู้ที่ป่วยด้วยโรคโควิด-19 คือเราไม่สามารถไปเยี่ยมคุณอาได้เลยค่ะ เราไม่สามารถไปดูใจผู้ที่ป่วยด้วยโรคนี้ได้ คือก่อนว้นที่คุณอาจะเสีย หมอที่นี่โทรมาหาแฟนคุณอา และบอกว่าคุณอาอาการทรุด หายใจไม่ออก พอตอนบ่ายก็หมดแรง และเสียชีวิตด้วยโรคแทรกซ้อน ซึ่งก็คือโควิด-19 ทางพวกเราก็สันนิษฐานกันว่า คุณอาอาจจะติดตั้งแต่ก่อนไปรักษาโรงพยาบาลแรก แต่ยังตรวจไม่เจอโรคหรือเปล่า และพอมาที่โรงพยาบาลที่ 2 ก็มาแสดงอาการที่นี่
>>> แล้วเรื่องงานศพ ทางรัฐบาลอิตาลี เค้าจัดการให้อย่างไรบ้างครับ
ที่นี่จะมีเอเย่น เป็นบริษัทที่จัดการเรื่องตรงนี้ให้ค่ะ คุณหมอก็โทรมาถามแฟนคุณอา ให้เซ็นอนุญาตในการเผาศพ แต่ช่วงนี้จะไม่มีการจัดพิธีอะไรใดๆทั้งสิ้นนะคะ เผาอย่างเดียว แล้วทางเอเย่น จะเก็บกระดูก อัฐิ ส่งกลับมาให้แฟนคุณอาน่ะค่ะ แต่สำหรับที่เมืองไทย ก็เพิ่งทำพิธีงานศพให้คุณอาเมื่อวานนี้ ( 28 มีนาคม ) ค่ะ
>>> ขออนุญาตถามเรื่องสภาพจิตใจของพี่นุช ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างครับ
ต้องเรียกว่าแย่มากค่ะ ทั้งทุกข์ใจเรื่องคุณอาที่มาจากไปโดยที่เราไม่สามารถไปดูใจแกได้ และทุกข์ใจเรื่องสถานการณ์ที่อิตาลีด้วยค่ะ เรียกว่าตอนนี้ทั้งประเทศเป็นเหมือนเมืองร้าง คนอิตาลี จากตอนแรกที่ดูชิลๆ ไม่กังวลอะไร เห็นเราใส่หน้ากากก็ด่าเรา หาว่าเราเป็นโรค กลับกันพอมาตอนนี้ ใครไม่ใส่หน้ากากจะโดนด่าค่ะ เพราะคนตายในแต่ละวันเยอะจริงๆ อย่างตัวพี่เองอยู่บ้านไม่ออกไปไหนมาตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์แล้วค่ะ ความรู้สึกเวลาอยู่ในบ้าน เหมือนมีข้าศึกเป็นล้านคนถือปืนจ่อมาที่บ้านของเรา แต่มันแย่ตรงที่เรามองไม่เห็นว่าขาศึกมันอยู่ตรงไหนนี่สิคะ
>>> สถานฑูตไทย ให้ความช่วยเหลืออย่างไรบ้าง
เค้าก็ดีนะคะ ก็หมั่นสอบถามคนไทยว่าความเป็นอยู่เป็นอย่างไร มีอะไรขาดเหลือ ให้ช่วยตรงไหนก็ติดต่อไปได้ ตอนนี้พี่เองก็นอนสวดมนต์ทุกคืนเลยค่ะ คิดถึงประเทศไทยมาก อยู่ตรงนี้ไม่รู้เลยว่าเมื่อไหร่จะได้กลับ นี่ถ้าให้พี่ตายคนเดียว แล้วคนทั้งโลกปลอดภัย เจ้าโควิด-19 หายไปเลย พี่ยอมนะคะ อันนี้พี่พูดจริงๆเลย เพราะมันหวาดกลัวไปหมด และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่สถานการณ์จะดีขึ้นด้วย
สำหรับพี่นุช ได้มาอยู่ที่อิตาลี ตั้งแต่เมื่อปี 2537 ( 26 ปีที่แล้ว ) โดยมาเป็นล่ามอยู่ที่นี่ในช่วงแรก และ 10 ปีหลัง ก็ไปๆกลับๆประเทศไทย ส่วนคุณอาเยาว์ ก็ย้ายมาอยู่ในเวลาใกล้เคียงกัน โดยคุณอาเยาว์ ทำงานเดี่ยวกับการดูแลผู้สูงอายุจนเกษียณ และพบรักกับสามีชาวอิตาเลียน จึงอยู่ที่นี่เป็นส่วนใหญ่ จนกระทั่งคุณอาเยาว์เสียชีวิต
ขอขอบคุณเพจ : รวมใจไทย เอมิเลีย-โรมานญา Gruppo Thailandese Emilia-Romagna และคุณเอ อรวรรณ จันทร์แสง สาวไทยในอิตาลี
You must be logged in to post a comment Login