สนธิรัตน์ ดัน Blockchain สู่ปาล์มยั่งยืน ปฏิรูปราคาปาล์มน้ำมันเพื่อปฏิรูปราคาปาล์มน้ำมัน
ระบบ Blockchain ถือเป็นระบบที่จะปฏิรูปการซื้อขายปาล์มน้ำมันของเกษตรกรทั้งระบบ เนื่องจากระบบจะสามารถควบคุมราคา รู้ถึงจำนวนผลผลิต พื้นที่เพาะปลูก จำนวนการซื้อขายในแต่ละวัน ซึ่งทั้งหมดจะส่งผลต่อราคาผลผลิตปาล์มของพี่น้องเกษตรกรที่จะเกิดความเป็นธรรม เพราะจากนี้ไปจะเป็นครั้งแรกที่ราคาปาล์มจะต้องสอดรับกับราคาน้ำมันปาล์มดิบ หรือ CPO
ระบบ Blockchain ถูกนำมาใช้ผ่านแอปพลิเคชัน “ปาล์มยั่งยืน” ซึ่งได้รับการยืนยันจากเกษตรกรผู้ใช้จริงมาแล้ว ในเรื่องความเข้าถึงและการใช้งานง่าย โดยขั้นตอนแรกเกษตรกร ลานเท โรงงานไบโอดีเซล และบริษัทน้ำมัน ต้องโหลดแอป “ปาล์มยั้งยืน” มีไว้บนมือถือของผู้ใช้งานทุกคน จากนั้นทำการลงทะเบียนผ่านแอปตัวนี้ เมื่อลงทะเบียนเสร็จ รอการตรวจสอบเอกสาร และผลการอนุมัติจากผู้ดูแลระบบ เมื่ออนุมัติเป็นที่เรียบร้อย เกษตรกร ลานเท โรงงานไบโอดีเซล และบริษัทน้ำมันก็จะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของแอปปาล์มยั่งยืนได้อย่างง่ายดาย ไม่ยุ่งยาก
ขั้นตอนที่สอง เป็นขั้นตอนสำคัญของการขายปาล์มน้ำมันจริง ระหว่าง เกษตรกร ลานเท และโรงหีบ เริ่มต้นจากฝั่งผู้ซื้ออย่างลานเท หรือ โรงหีบ จะเริ่มเข้าสู่แอป “ปาล์มยั่งยืน” กดการขอซื้อปาล์ม เพื่อเลือกเกษตรกรผู้ขาย กรอกข้อมูลการซื้อขายปาล์ม แล้วกดตรวจสอบ เมื่อตรวจสอบเสร็จผู้ซื้อก็สามารถกดซื้อได้ทันที
จากนั้นระบบจะแสดงรายการขอซื้อปาล์มในแอปของฝั่งเกษตรกรผู้ขาย โดยผู้ขายจะเลือกทำรายการ แล้วกดยืนยันการขายปาล์มได้ทันที ง่ายๆ เพียงเท่านี้ ก็ถือว่าเสร็จสิ้นการซื้อขายผลผลิตปาล์มระหว่างเกษตรกร
ขั้นตอนถัดมา จะเป็นการขายน้ำมันดิบ หรือ CPO ระหว่างโรงงานไบโอดีเซล B100 และโรงหีบ ซึ่งจะต้องใช้แอป “ปาล์มยั่งยืน” เช่นเดียวกัน โดยเริ่มจากตัวโรงงานเข้าสู่ระบบ กดเลือก ขอซื้อ CPO พร้อมกับเลือกโรงหีบที่ได้ติดต่อซื้อขายไว้ กรอกข้อมูล แล้วกดตรวจสอบ / ระบบจะทำการตรวจสอบข้อมูลการซื้อ ก่อนโรงงานไบโอดีเซล จะกดซื้อได้ทันที ระบบก็จะแสดงรายการการซื้อ CPO ไปยังฝั่งของโรงหีบผู้ขาย ฝั่งผู้ขายจะเลือกทำรายการแล้ว ยืนยันการขาย CPO โต้ตอบกลับไป ก็เสร็จขั้นตอนการซื้อขายระหว่างโรงงานไบโอดีเซล และ โรงหีบ
ขั้นตอนสุดท้าย คือ ขั้นตอนการขาย B100 สู่บริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ โดยเริ่มจาก บริษัทน้ำมันต้องซื้อขายผ่านแอป “ปาล์มยั่งยืน” ด้วยการเข้าระบบ พร้อมกับกดขอซื้อไบโอดีเซล จากนั้นก็เลือกโรงงาน B100 ที่ต้องการซื้อ กรอกข้อมูลให้ครบ แล้วกดตรวจสอบ ระบบก็จะตรวจสอบข้อมูล ก่อนบริษัท จะการซื้อน้ำมัน พร้อมๆ กับการแสดงรายการการขอซื้อไปยังฝั่งคนขายอย่างโรงงาน B100 ที่จะมองเห็นรายการการขอซื้อจากบริษัทคู่ค้า ผ่านแอปตัวนี้ โรงงานตรวจสอบ ก่อนจะกดเพื่อยืนยันการขาย B100 เท่านี้นก็เสร็จสิ้นกระบวนการสุดท้าย ผลผลิตปาล์ม ที่จะกลายเป็นน้ำมันปาล์มดิบ ก็จะเข้าสู่บริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเป็นขั้นตอนสุดท้าย
ฉะนั้นจะเห็นได้ว่า ระบบ Blockchain ผ่านแอป “ปาล์มยั่งยืน” จะเก็บข้อมูลการซื้อขายทุกขึ้นตอนตั้งแต่เกษตรกร ไปจนถึงการแปรรูปน้ำมัน มีราคาการซื้อขายที่ชัดเจนทั้งปริมาณ ผู้ขาย และผู้ซื้อ จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่รัฐมนตรีพลังงาน สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ย้ำมาตลอดว่า จะเป็นการปฏิรูปราคาปาล์มน้ำมันอย่างแท้จริง เพราะสามารถควบคุมราคาและการซื้อขายได้ทั้งหมด ปฏิรูปราคาปาล์มน้ำมันชาวสวนปาล์มที่จะได้รับราคาที่สูงขึ้น เป็นธรรม ไม่ถูกดราคาเหมือนในอดีตอีก ถือเป็นการปฏิรูประบบปาล์มน้ำมัน เหมือนที่เจ้ากระทรวงพลังงาน สนธิรัตน์ อย่างจะเห็นและเกิดเป็นรูปธรรมสักที
โดยนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ได้กล่าวว่า
“สิ่งที่คาดหวังของโครงการนี้ก็คือ เกิดการซื้อขายปาล์มน้ำมันในปริมาณที่มากขึ้น เช่น ทดลองซื้อประมาณ 10 ล้านลิตร แล้วส่งผลไปถึงเกษตรกร โดยเกษตรกรได้ราคาตามการซื้อขายตามกลไกนั้น ซึ่งก็จะถือว่าเป็นความสำเร็จในการเริ่มต้นโครงการนี้ และขยายผลออกไปเป็นวงกว้างได้
สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เกษตรกรดีใจ เพราะมีกลไกแบบนี้เข้ามาช่วย เพราะที่ผ่านมา CPO เท่าไหร่ก็ตาม เกษตรกรจะไม่สามารถต่อรองราคาได้ หากแต่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของตลาดในขณะนั้น ซึ่งพอเป็นโครงการแบบนี้พี่น้องเกษตรกรก็มีความหวังมากขึ้น พวกเขาจะได้รับราคาที่เป็นธรรม ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่พี่น้องเกษตรกรรอคอย
เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จึงป็นเรื่องที่คิดว่าหากดำเนินการเรื่องนี้ได้ตามเจตนารมณ์ ก็จะเป็นการพยุงราคาให้เกษตรกรได้อย่างแท้จริง และจะสอดรับกับนโยบายที่ได้ทำไปแล้วของกระทรวงพลังงานก็คือ การประกาศนโยบาย B10 เป็นดีเซลพื้นฐานของประเทศไทย โดยนโยบายนี้มีความสำคัญคือ นโยบายนี้ไม่ใช่แค่เพียงคุมเกรดน้ำมัน แต่เป็นนโยบายที่ทำให้เกิดความสมดุลระหว่าง Supply ของปาล์มน้ำมันในประเทศ เกิดสมดุลกับความต้องการใช้ปาล์มน้ำมันในประเทศ
You must be logged in to post a comment Login