หลังจากที่ “มอริส เค” ดาราหนุ่มลูกครึ่ง ใช้เวลาตามหาคุณพ่อที่ไม่เคยพบหน้ามานานถึง 50 กว่าปี จนเจอตัวคุณพ่อ Isaiah Roberts และได้พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ แต่ยังไม่มีโอกาสได้ไปพบหน้ากัน
ล่าสุด “มอริส เค” ได้บินไปสหรัฐอเมริกาจากที่เลื่อนมา 2 ปีกว่าเหตุเพราะโควิดระบาด แต่พอถึงสนามบินอเมริกา ได้เจอกับเรื่องประทับใจจนต้องเอามาแชร์ผ่านทางไอจีว่า
“มีเรื่องเล่าให้ฟังถึงกองการตรวจคนเข้าเมืองของอเมริกาเรื่องมีอยู่ว่า ตอนที่มาถึงอเมริกาแล้วเราก็เดินตามเค้ามาที่เข้าช่องการตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งพนักงานแต่ละคนหน้าตาจึงขัง เราดันโดนให้เข้าไปเป็นคนแรกที่เข้าไปที่ช่องตรวจคนเข้าเมือง (ซวยแล้ว)เราก็เดินพร้อมยิ้ม(สยาม)เข้าไปและทักทาย (ข่มความกังวล) พร้อมกล่าวสวัสดียามเช้าไปตามมารยาท นางก็หน้านิ่งมากเหมือนโกรธใครอยู่”
“นางก็ให้ส่งเอกสารทั้งพาสปอร์ตและวีซ่า แต่เราก็ช้าเพราะเราไม่ได้เตรียมตัวก่อน เพราะไม่นึกว่าจะเป็นคนแรก เราก็หาใหญ่เลยนางก็บ่นว่าไม่รู้จักเตรียมให้พร้อม เราก็โอ๊ย..ยิ่งกังวลยิ่งลน พอเจอก็รีบส่งพาสปอร์ตและวีซ่าซึ่งอยู่คนละเล่มให้นาง พอนางได้รับไปนางก็ถามว่ามาทำอะไรที่อเมริกา ใจเรานึกอยากบอกว่ามาหาพ่อ แต่ก็คิดว่ามันเรื่องส่วนตัวเกินไป ก็เลยบอกนางว่า มาหาเพื่อนและครอบครัว นางก็ถามต่อว่าพักที่ไหน ก็บอกที่พักที่นี่ให้นางไป”
“แล้วนางก็ถามต่อว่า จะอยู่ที่อเมริกานานขนาดไหน เราก็บอกไปว่า 2 เดือน นางมองหน้าเราแล้วก็ถามต่อว่า 2 เดือนเลยหรือ มีแผนที่จะทำอะไรที่อเมริกา เราก็บอกว่าเยี่ยมเพื่อนและครอบครัว นางก็ถามต่อว่า 2 เดือนเยอะไปมั้ย เราก็คิดว่าเอาวะ คงต้องบอกเรื่องมาเจอพ่อเป็นครั้งแรกละ เราก็เลยบอกนางว่านี่เป็นครั้งแรกที่เราจะได้พบพ่อผู้ให้กำเนิด นางนิ่งและมองหน้าเราแบบจ้องเลย แล้วถามว่าจริงเหรอ เราบอกว่าจริง แล้วก็เริ่มเล่าให้เค้าฟังว่าเราตามหาพ่อเรามาตลอด”
“แล้วนางก็ถามอีกว่าตามหาด้วยวิธีไหน เราเลยเล่าให้นางฟัง นางรับฟังอย่างตั้งใจ แล้วนางก็บอก 2 เดือนไม่น่าจะพอ นางก็เลยให้มา 6 เดือน พร้อมกับอวยพรและเรียกเพื่อนๆ ที่ทำงานมารับรู้เรื่องของเราพร้อมกับอวยพรให้ใช้เวลาให้เต็มที่ นางบอกนางดีใจประทับใจเรื่องการตามหาพ่อของเรามาก แล้วนางก็ประทับตราให้แบบนี้ให้เรา โอ๊ย….เรายิ้มแก้มแก้มปริและขอบคุณนางเป็นการใหญ่ เป็นการมาอเมริกาที่เราได้เห็นถึงการจัดเตรียมของพระเจ้าอย่างมาก”
“เราอธิษฐานขอการช่วยเหลือเรื่องนี้อย่างมาก เพราะเรากังวลมากๆ เรื่องตม. เพราะเราเปลี่ยนทั้งชื่อและนามสกุล ไม่ตรงกับวีซ่าที่ใช้ชื่อเดิมและนามสกุลเดิม เรากังวลว่าทางตม. คงจะต้องซักเยอะๆ แล้วเราจะตอบลำบากเพราะภาษาอังกฤษเราไม่แข็งแรง แต่สิ่งเหล่านั้นก็ไม่เกิดขึ้น แต่กลับกลายมาเป็นการร่วมยินดีและร่วมอวยพรจาก ตม. อย่างที่เรานึกไม่ถึง”
“ขอบคุณพระเจ้า เพราะสิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราขอการช่วยเหลือจากพระเจ้าและพระเจ้าตอบรับคำขอของเรา พระเจ้าเมตตาเรามาก แต่พอให้เราอยู่นานขนาดนี้ถามว่าเราพร้อมจะอยู่นานขนาดนี้มั้ยล่ะ หรือต้องหางานเพื่อหาเงินในการใช้จ่ายเพิ่ม ทำอะไรดีนะ”
ภาพ IG : mor_ris_k