ปีเก่าเพิ่งจะผ่านไป ปีใหม่มาเยือน สำนักข่าวโตโจ้นิวส์ ขอทำบันทึกถึงเหตุการณ์ สำคัญที่เกิดขึ้นในรอบปีที่ผ่านมา เพื่อเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ให้เราได้เรียนรู้และนำไปปรับใช้ในอนาคต โดยจะขอเริ่มจาก…
1. 9 มกราคม 2563 เกิดเหตุสะเทือนขวัญ เมื่อมีเหตุปล้นชิงทองที่ห้างสรรพสินค้าใจกลางเมืองลพบุรี โดยผู้ก่อเหตุได้ลงมือฆ่าคนตายไป ๓ ศพ หนึ่งในผู้เสียชีวิตเป็นเด็กอายุเพียง 2 ขวบ ตำรวจได้สืบสวนและตามจับตัวคนร้ายมาได้ในที่สุด ซึ่งก็คือ
นายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือ ผอ.กอล์ฟ ผู้ลงมือก่อเหตุ เป็นข้าราชการครู มีตำแหน่งเป็นถึง ผอ.โรงเรียน โดยสารภาพว่าที่ก่อเหตุปล้นทอง 32 เส้น น้ำหนัก 28 บาท รวมมูลค่าประมาณ 6 แสนบาท เพื่อนำเงินไปใช้หนี้ ศาลได้ตัดสินให้รับโทษประหารชีวิตในเวลาต่อมา
2. 13 มกราคม 2563 ประเทศไทยพบผู้ป่วยติดเชื้อโคโรน่า ไวรัส คนแรกของประเทศ เป็นนักท่องเที่ยวหญิงจากเมือง อู๋ฮั่น ซึ่งเป็นเมืองแรกในโลกที่มีการพบ และประกาศว่ามีเชื้อไวรัสชนิดใหม่นี้ ก่อนที่ต่อมาจะเกิดลุกลามและระบาดไปทั่วโลก องค์การอนามัยโลกเรียกวิกฤติการระบาดครั้งนี้ว่า โควิด – 19
3. เข้าสู่เดือนแห่งความรักได้ไม่นาน วันที่ 8 กุมภาพันธ์ ก็เกิดเหตุการณ์ระทึกขวัญคนโคราชและคนทั้งประเทศ เมื่อ จ่าสิบเอก จักรพันธ์ ถมมา ทหารยศจ่าสิบเอกสังกัดค่ายสุรธรรมพิทักษ์ ได้ก่อเหตุขโมยอาวุธสงครามจากค่ายทหาร ถล่มยิงผู้บังคับบัญชาและครอบครัว ก่อนที่จะหลบหนีการจับกุม เข้าไปที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังกลางเมืองโคราช โดยมีผู้คนจำนวนมากติดอยู่ในห้างเป็นตัวประกัน โดย จ่าสิบเอก จักรพันธ์ ถมมา ได้ Live สดๆในขณะที่ไล่ล่ายิงผู้คน เจ้าหน้าที่ได้ใช้ความพยายามมากกว่า 17 ชั่วโมงในการเจรจาต่อรองแต่ไม่เป็นผล ในที่สุด จ่าสิบเอก จักรพันธ์ ถมมา ก็ถูกวิสามัญ มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ 30 ราย บาดเจ็บ 58 ราย
4.กำเนิดม็อบการเมืองแนวใหม่ หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรค อนาคตใหม่ เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ บรรยากาศทางการเมืองก็เริ่มร้อนแรงขึ้น เกิดการจัดกิจกรรมชุมนุมแบบแฟลชม็อบบ่อยครั้ง มีการชักชวนนักเรียน นิสิต นักศึกษา จากหลายสถาบันมาเข้าร่วม
5.เมื่อย่างเข้าสู่เดือนมีนาคมได้ไม่นาน ก็มีรายงานผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรน่า เป็นรายแรกในประเทศไทย พร้อมทั้งจำนวนผู้ป่วยจากการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นหลักร้อยในแต่ละวัน จนเวลาล่วงเข้าสู่วันที่ 26 มีนาคม รัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ ก็ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฉบับแรก มีการสั่งปิดอาคารสถานที่เพื่อควบคุมการติดเชื้อไม่ให้แพร่ขยาย ลุกลาม จนถึงวันที่ 3 เมษายน ก็มีการประกาศเคอร์ฟิว ห้ามประชาชนออกนอกเคหะสถานตั้งแต่ 4 ทุ่มถึงตี 4 เป็นครั้งแรก
6.13 เมษายน 2563 ต้องบันทึกเอาไว้ว่าเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปีที่คนไทยไม่ได้เล่นสาดน้ำกันในเทศกาลสงกรานต์ อันเนื่องมาจากการระบาดของผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า ทำให้ต้องปิดสถานที่ทำงาน ผู้คนบางส่วนแห่กลับบ้านต่างจังหวัด กรุงเทพแทบกลายเป็นเมืองร้าง ผู้คนในหลายสาขาอาชีพต้องปรับตัวทำงานจากที่บ้านแทนการมาทำงานตามปรกติ แม้กระทั่งหลังจากมีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินเมื่อกลางเดือนมิถุนายน ชีวิตของคนไทยส่วนใหญ่ก็เปลี่ยนไปตลอดกาล เริ่มเข้าสู่ยุค วิถีชีวิตใหม่ หรือ New Normal
7.เข้าสู่เดือนกรกฏาคม ก็เกิดการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มผู้เรียกร้องที่เรียกตัวเองว่า กลุ่มเยาวชนปลดแอก โดยเมื่อ 18 กรกฏาคม เริ่มมีการนัดชุมนุมกันเพื่อเรียกร้องให้มีการร่างรัฐธรรมนูณฉบับใหม่ เรียกร้องให้มีการยุบสภา ต่อต้านและขับไล่รัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
8.เมื่อถึงเดือนสิงหาคม การชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอก ก็ทำให้สถานการณ์ทางการเมืองร้อนระอุขึ้น เมื่อมีการเพิ่มข้อเรียกร้องเกี่ยวกับสถาบันฯวันที่ 16 สิงหาคมมีการนัดชุมนุมใหญ่ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน เริ่มมีการอภิปรายโจมตีสถาบันฯบนเวทีอย่างโจ่งครึ่ม เริ่มผู้เข้าร่วมชุมนุมมากขึ้น ต่อมามีการกำหนดสัญลักษณ์ของการชุมนุมด้วยการชู 3 นิ้ว
9.กลุ่มเยาวชนปลดแอก ยังเดินหน้าจัดกิจกรรมทางการเมืองอย่างต่อเนื่องเริ่มจาก 19 กันยายน ได้จัดให้มีการชุมนุมค้างคืนเพื่อ ทวงอำนาจคืนราษฏร ที่ท้องสนามหลวง โดยมีการทำเซอร์ไพรส์ ตื่นเช้าตรู่มาทำพิธีฝังหมุดคณะราษฏร กลางสนามหลวง
เมื่อเข้าสู่เดือนตุลาคม บรรยากาศก็ทวีความร้อนแรงขึ้น มีการชักชวนนักเรียนมัธยมเข้ามาร่วมชุมนุม มีการตั้งกลุ่ม นักเรียนเลว มีข้อเรียกร้องที่ประกาศสู่สังคมเช่น หยุดคุกคามนักเรียน ยกเลิกกฏระเบียบที่ล้าสมัย และปฎิรูปการศึกษา เกิดการรวมตัวกันของผู้ชุมนุมหลายๆกลุ่ม จัดตั้งเป็นกลุ่ม คณะราษฏร 2563 มีการชุมนุมกันในที่สาธารณะบ่อยครั้งขึ้น จนกระทั่งมีการนัดชุมนุมใหญ่ที่สี่แยกราชประสงค์ เมื่อ 16 ตุลาคม เป็นครั้งแรกที่มีการสลายผู้ชุมนุมโดยการใช้น้ำแรงดันสูง
ผู้ชุมนุมเริ่มเปลี่ยนวิธีชุมนุมโดยแยกย้ายกันไปชุมนุมตามสถานที่ต่างๆทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล โดยจัดชุมนุมกันเพียงไม่นานในแต่ละครั้งแล้วแยกย้ายกัน มีคำศัพท์เกิดใหม่อันเป็นผลมาจากการชุมนุมเช่น รถ CIA,โดนแกง เป็นต้น
10.ส่งท้ายปลายปี 2563 ด้วยการกลับมาระบาดรอบใหม่ของเชื้อไวรัสโคโรน่า
มารอบนี้ มีการพบว่าเป็นเชื้อไวรัสแบบกลายพันธุ์ ไม่แสดงอาการรุนแรงแต่ทำให้ติดต่อกันได้ง่ายกว่าเดิม โดยเริ่มพบผู้ติดเชื้อจากตลาดค้ากุ้งที่ จ.สมุทรสาคร ก่อนที่จะกระจายไปทั่ว ทำให้ก่อนสิ้นปี 2563 พบว่ามีผู้ติดไปแล้วทั่วประเทศเกือบ 50 จังหวัด สร้างความวิตกกังวลให้กับคนไทยไปทั้งประเทศ ทำให้ปีนี้ บรรยากาศการเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เป็นไปอย่างเงียบเหงา
สุดท้ายนี้ สำนักข่าวโตโจ้นิวส์หวังไว้ว่า คนไทยทุกคน จะพร้อมใจกันรับมือกับ สารพันปัญหาที่ถาโถมเข้ามาอย่างต่อเนื่องได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งถือโอกาสนี้ น้อมนำพรอันประเสริฐจาก สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่ได้ประทานพรสำหรับส่งความสุขปีใหม่ พุทธศักราช 2564 ว่า
“ สพฺเพสํ สงฺฆภูตานํ สามคฺคี วุฑฺฒิสาธิกา ความพร้อมเพรียงของหมู่ชน ยังความเจริญให้สำเร็จ ”
You must be logged in to post a comment Login