“หงส์แดง”เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ “เรือใบสีฟ้า”ไปแบบสุดมันส์​ 1-0 ซาล่าห์ ซัดประตูชัยในช่วงท้าย​เกมส์​ จากแอส​ซิสต์​ของ​ อลิซง​ เบ็คเกอร์​

“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเฉือนเอาชนะทีมรองจ่าฝูง”เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้​ แบบสุดมันส์​ 1-0 คว้าสามแต้มสำคัญ​ ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 8 ของตาราง​ ซาล่าห์ ซัดประตูชัยในช่วงท้าย​เกมส์​ จากแอส​ซิสต์​ลูกเปิดบอลยาวของ​ อลิสซง​ เบ็คเกอร์​ อีกครั้ง

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่สุดท้ายของคืนวันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม 2565 เป็นเกมส์​บิ๊กแมตช์ประ​จำ​สัปดาห์ระหว่างเจ้าบ้านทีม​หง​ส์แดง​ ลิเวอร์พูล ทีมอันดับที่​ 12​ ของตาราง​ เปิดบ้านสนามแอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมรองจ่าฝูง​ ซึ่งทำสถิติยังไม่แพ้ทีมใดในฤดูกาลนี้

เกมส์​ใน​นัด​นี้​ทีม​หงส์แดง ส่ง โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์​
ลงยืนเป็นหน้าเป้า​ มี โรเบอร์โต้ เฟอร์มิโน่​ ยืนเป็นหน้าต่ำ​ดิโอโก โฌต้า และฮาร์​วี่ย์​ เอลเลียต​ ยืนเป็นปีกซ้าย​ ขวา​ ตามลำดับ

ในขณะที่ทีม เรือใบสีฟ้า​ ก็จัดทีมชุดใหญ่​ลงทำศึก ส่งเออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ลงยืนเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า โดย
มี เควิน เดอ บรอยน์ และอิลคาย​ กุนโดกัน​ คอยปั้นเกมส์​ในแดนกลาง​ ส่วนฟิล​ โฟเด้น​ และ​ เฌา กานเซโล่​ ยืนเป็นปีกซ้ายและขวาตามลำดับ

เริ่มเกมส์​ในครึ่งแรก​ ช่วง​ 15 นาทีแรก​ กลายเป็นฝั่งทีมเยือน แมนฯ ซิตี้ ที่ครองบอลทำเกมส์​บุกได้เหนือกว่าเจ้าถิ่นเล็กน้อย ทั้งสองทีมผลัดกันทำเกม​ส์บุกเข้าใส่กันเป็นระยะตามจังหวะเกมส์​ แต่ส่วนใหญ่เป็นการชิงเหลี่ยมกันในเกมส์​แดนกลางสนามมากกว่า​ โอกาสพาบอลขึ้นไปจบสกอร์ แบบเน้นๆ
มีเพียงทีมละ​ 2-3 หน​ แต่นายทวารของทั้งสองทีมก็โชว์ฟอร์ม​เยี่ยม​ ป้องกันเอาไว้ได้หมด

หมดเวลาการแข่งขันในครึ่งแรก​ ทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่​ที่สกอร์​ 0-0

เริ่มเกมส์​ในครึ่งหลัง​ ทีมเยือนยังครองบอลทำเกมส์​บุกมากกว่าเจ้าถิ่นเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่สามารถฝ่าแนวรับอันเหนียวแน่นของทีมเจ้าถิ่น​ เข้าไปจบสกอร์​ได้​ จนนาทีที่​ 53 ทีมเยือนก็เป็นฝ่ายส่งบอลเข้าไปกองที่ก้นตาข่ายทีมเจ้าถิ่นได้สำเร็จ​ จากจังหวะที่ เควิน เดอ บรอยน์ จ่ายบอลทะลุช่อง มาถึง เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ พาบอลเข้าไปในกรอบ 6 หลา​ อลิสซง เบ็คเกอร์ พยายามตะปบบอล​ แต่ฮาแลนด์​ ปั๊มแย่งบอลมาได้แต่บอลกระฉอกมาเข้าทาง ฟิล โฟเด้น สับไกยิงระยะเผาขน​ บอลพุ่งลอดขา​ โจ​ โกเมซ เข้าไปตุงตาข่าย ท่ามกลางเสียงประท้วงของผู้เล่นลิเวอร์พูล​ เนื่อง​จาก​ น่าจะเป็นจังหวะฟาล์ว​ก่อนหน้านี้

หลังจากกรรมการในสนามเช็คภาพจาก วีเออาร์​
ก็ตัดสินใจริบประตูคืน​ เนื่องจาก เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์​ไปทำฟาวล์ฟาบินโญ่ล้มลงในจังหวะก่อนหน้านี้

ช่วงเวลาที่เหลือเกมส์​เริ่มดุเดือด​ขึ้น​ เนื่องจากทั้ง
สองทีม​ ต่างเร่งทำเกมส์​บุกหวังทำประตูขึ้นนำให้ได้
ช่วง 15 นาทีสุดท้ายของเกมส์​ เจ้าถิ่น​ ลิเวอร์พูล ก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ อลิสซง เบ็คเกอร์ เตะเปิดบอลยาวไปให้ ซาล่าห์ ในแดนทีมเยือน​ ซาล่าห์​ พลิกตัวพาบอลหนีแนวรับทีมเยือนหลุดเดี่ยวไปดวลกับ เอแดร์ซอน​ นายทวารของแมนฯซิตี้​ ก่อนที่​ โมฮัมเหม็ด​ ซาล่าห์​ จะแปบอลด้วยเท้าซ้ายสวนตัวนายทวารทีมเยือน​ ส่งบอลเข้าประตูไปอย่างเยือกเย็น​ เป็นประตูขึ้นนำให้ทีมเจ้าถิ่นได้สำเร็จในนาทีที่ 76 ของเกมส์​การแข่งขัน

หลังเสียประตู แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็โหมทำเกมส์​บุกอย่างหนักหวังทวงประตูคืน แต่ก็ไม่สามารถฝ่าแนวรับอันเหนียวแน่นของทีมเจ้าถิ่น​ เข้าไปจบสกอร์ได้​ ในขณะเดียวกัน​ ลิเวอร์พูล​ ก็รอจังหวะสวนกลับเร็ว​ พาบอลไปสร้างความหวาดเสียวได้เป็นระยะๆ

ช่วงท้ายครึ่งหลัง​ เกมส์​เริ่มเดือดขึ้นอีกครั้ง​ มีจังหวะปะทะกันรุนแรงมากขึ้นบ่อยครั้ง​ จนนาทีที่ 85 เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือทีมหง​ส์แดง​ ถูกผู้ตัดสินควักใบแดงไล่ออกจากสนามหลังจาก​ไปโวยวายและตำหนิการทำหน้าที่ตัดสินเกมส์​ในสนามของผู้ตัดสิน

หลังจากทดเวลาบาดเจ็บมานานเกือบ 10 นาทีหลังจาก​ ดิโอโก้​ โฌต้า​ ได้รับบาดเจ็บ ต้องปฐมพยาบาลอยู่ในสนามเป็นเวลานาน​ ก่อนที่แพทย์สนามจะอุ้มโฌต้า​ ลงเปลแล้วหามออกนอกสนามไปดูอาการต่อ

เมื่อหมดเวลาการแข่งขัน​หง​ส์แดง​ ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปได้ด้วยสกอร์ 1-0 ยัดเยียดความความพ่ายแพ้เป็นนัดแรกของฤดูกาลนี้ให้ทีม “เรือใบสีฟ้า” ได้สำเร็จ​ หลังจากก่อนหน้านี้​ แมนเชสเตอร์​ ซิตี้​ มีผลงานยอดเยี่ยม
ไม่แพ้ใครมา 14 เกมส์​ติดต่อกัน​ ในทุกรายการ

“หงส์แดง” เก็บ​ 3 คะแนนสำคัญ​ไปได้​ มีเพิ่มเป็น 13 แต้ม​ จากการลงเตะ 9 นัด​ ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 8 ของตาราง​ ส่วนทีม “เรือใบสีฟ้า” แม้จะพ่ายแพ้ในเกมส์​นี้แต่ยังคงรั้งตำแหน่งรองจ่าฝูงต่อไป มี 23 คะแนน จากการลงสนาม 10 นัด แต่คะแนนตามหลังจ่าฝูง อาร์เซน่อล เป็น 4 แต้ม

ขอบคุณ​ภาพ​จาก​
https://twitter.com/ManCity
https://twitter.com/LFC