มุมมองไกด์ชาวเมียนมา ต่อปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หวังคนไทยเข้าใจ ชาวบ้านเมียนมา ทำอะไรไม่ได้
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเป็นคนเมียนมา สามารถอ่านออกเขียนภาษาไทยได้ โพสต์ข้อความ แชร์มุมมองปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยระบุว่า
พี่น้องชาวไทย ก่อนอื่น
ผมขอแนะนำตัว
ผมเป็นคนฉานที่มาจากรัฐอื่น
ต้องอพยพมาอยู่ที่ท่าขี้เหล็ก ตั้งแต่หลังรัฐประหาร
ผมอ่านออกเขียนได้ภาษาไทย
เนื่องด้วยอาชีพที่เป็นไกด์
และติดตามข่าวสารเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างพม่าและไทยอยู่ตลอด
วันนี้ผมอยากใช้พื้นที่นี้เพื่ออธิบายให้ทุกคนเข้าใจในมุมของพวกเรา
เพราะผมเห็นว่ามีความเข้าใจผิด
ความเกลียดชัง และอคติที่เกิดขึ้นมากมายจากทั้งสองฝั่ง ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการรับรู้ข้อมูลเพียงด้านเดียว
พม่าวันนี้แผ่นดินที่ประชาชนไม่มีทางเลือก
สำหรับคนไทยหลายคน
พม่าคือเพื่อนบ้านที่เต็มไปด้วยปัญหา
เป็นแหล่งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์
เป็นดินแดนที่ดูเหมือนจะปล่อยปละละเลยให้มิจฉาชีพเติบโต
แต่ถ้าคุณได้เห็นด้วยตาตัวเอง ได้สัมผัสกับความจริงที่พวกเราเผชิญอยู่ทุกวัน
คุณจะเข้าใจว่ามันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
พม่าทุกวันนี้ ไม่ใช่ประเทศที่ประชาชนมีสิทธิ์เลือก ไม่ใช่ประเทศที่
คนธรรมดาสามารถเรียกร้องความยุติธรรมได้
รัฐบาลพม่าไม่เคยทำเพื่อประชาชน
สิ่งที่พวกเขาสนใจคือการรักษาอำนาจ
ของตัวเอง ไม่ว่าต้องใช้วิธีไหนก็ตาม
การทำให้ประชาชนกลัว คือกลไกสำคัญของพวกเขา การใช้กำลังเข้าปราบปราม
การใช้ระเบิดทำลายหมู่บ้าน
การจับกุมและทรมานผู้ที่เห็นต่าง
มันคือสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปกติในหลายพื้นที่
ในบางรัฐของพม่า โรงเรียนไม่สามารถเปิดสอนได้เพราะโดนทิ้งระเบิด
คนจำนวนมากต้องทิ้งบ้าน
ทิ้งทุกอย่างที่มี เพื่อหนีตาย เด็ก ๆ
ไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือ
คนหนุ่มสาวไม่มีอนาคต
ผู้อพยพจำนวนมากอย่างพวกเรา
ต้องหาที่ซ่อน ต้องดิ้นรนหาที่อยู่ใหม่
และท่าขี้เหล็ก คือ ‘ประตูด่านสุดท้าย’
ที่พม่าเองยังไม่กล้าทิ้งระเบิดใส่
เพราะอยู่ติดกับประเทศไทย
พวกเราไม่อยากสร้างปัญหาให้ไทยเลย
เรารู้สึกขอบคุณประเทศไทยเสมอมา
เพราะในช่วงเวลาที่ประเทศเราล้มเหลว ประเทศไทยคือที่พึ่งที่ใกล้ที่สุด
คนไทยช่วยเหลือคนพม่ามาตลอด
เราไม่เคยลืมบุญคุณนี้
แต่เราเองก็ไม่มีอำนาจไปเปลี่ยนแปลงอะไรได้
ทำไมไม่กดดันรัฐบาลพม่าให้ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ผมเห็นหลายคนถามคำถามนี้ และขอพูดตรง ๆ ว่า “เป็นไปไม่ได้” ก็รัฐบาลพม่านั่นแหละที่เป็นคนเปิดทางให้พวกนี้เข้ามา!
ใครกันที่อนุญาตให้แก๊งพวกนี้ตั้งฐาน?
ใครกันที่ได้ผลประโยชน์จากเงินที่ไหลเข้ามา? ประชาชนธรรมดาไม่มีสิทธิ์
แม้แต่จะตั้งคำถาม ไม่มีใครกล้าแตะต้องอิทธิพลของพวกนี้ เพราะเราทุกคนรู้ดีว่า
ถ้าไปขัดขวางผลประโยชน์ของผู้มีอำนาจ
อาจไม่มีวันได้กลับบ้านอีกเลย
พวกเราเกลียดพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ไม่ต่างจากคนไทย แต่แค่เอาตัวรอดในชีวิตประจำวันยังยาก แล้วเราจะไปกดดันใครได้? คนไทยต้องเข้าใจว่าพม่าทุกวันนี้ไม่ใช่ประเทศที่เสียงของประชาชนมีค่า
เราไม่มีเสรีภาพเหมือนพวกคุณ
เราไม่มีแม้แต่สิทธิ์ที่จะเลือกอนาคตของตัวเอง
ชนกลุ่มน้อยสงครามและเกมอำนาจของรัฐบาลพม่า
รัฐบาลพม่าฉลาดแกมโกง พวกเขาไม่ได้รบกับชนกลุ่มน้อยเพื่อจะเอาชนะ
แต่พวกเขาใช้ชนกลุ่มน้อยเป็นเครื่องมือในการแบ่งแยกและปกครอง
ทุกครั้งที่รบกับกลุ่มหนึ่ง พวกเขาจะปล่อยให้อีกกลุ่มหนึ่งเป็นอิสระ หรือทำตามอำเภอใจ
เพื่อให้เกิดความขัดแย้งไม่รู้จบ
เพื่อให้ไม่มีใครสามารถลุกขึ้นมาแข็งแกร่งพอที่จะโค่นพวกเขาได้
บางชนกลุ่มน้อยที่อยู่ติดกับประเทศไทย มีอำนาจมากพอที่จะต่อรองกับรัฐบาลพม่า
ผมขอไม่เอ่ยถึงตรงนี้
เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง
แต่ผมคิดว่าหลายท่านก็น่าจะ
พอเข้าใจว่าหมายถึงอะไร
ทุกวันนี้ คนพม่าหลายล้านคน
ต้องอยู่ภายใต้กระสุน ระเบิด และเผด็จการ
คนจำนวนมากสูญเสียครอบครัว
พ่อแม่โดนฆ่า เด็ก ๆ เติบโตขึ้นมาโดยไม่รู้จักแม้แต่คำว่า ‘สันติภาพ’
ผู้หญิงจำนวนมากต้องหวาดกลัว
ว่าจะถูกทหารข่มขืน ทุกวันเต็มไปด้วยความหวาดระแวงและไร้หนทางไป
เบื้องหลังของการประท้วงแบนสินค้าไทย
ผมเข้าใจดีว่าคนไทยหลายคน
ไม่พอใจที่ฝั่งพม่ามีการประท้วงหรือแบนสินค้าไทยที่แม่สอด แต่ขอให้ทุกคนเข้าใจว่า…
คนธรรมดาไม่มีใครอยากทำแบบนั้นหรอก!
การประท้วงเหล่านี้ ส่วนใหญ่แล้ว
อยู่ภายใต้การชักนำของทหาร
หรือครอบครัวของคนที่มีอำนาจ
คนธรรมดาไม่มีใครกล้าออกมาเคลื่อนไหว เพราะทุกคนรู้ดีว่าถ้าออกมายุ่งเรื่อง
ที่ไม่ควรยุ่ง อาจหายตัวไปแบบไร้ร่องรอย
นี่ไม่ใช่ความสมัครใจ
แต่มันคือคำสั่งจากผู้ที่อยู่เบื้องบน
พวกเราที่มาอาศัยที่นี่ท่าขี้เหล็ก
เราไม่อยากให้มีความขัดแย้งกับไทย
เรารู้ดีว่าประเทศไทยไม่ใช่ศัตรูของเรา
พวกเราซาบซึ้งกับความช่วยเหลือที่ได้รับมาตลอดตั้งแต่น้ำท่วมและหลายๆ
เหตุการณ์ที่ผ่านมา
และพวกเราไม่อยากให้การกระทำของคน
ไม่กี่กลุ่มมากลายเป็นตัวแทนของพม่าทั้งประเทศ
และอีกประเด็นว่าทำไมพวกเราไม่อยากไปเกณฑ์ทหาร
เกณฑ์ทหารในพม่าถ้าไปคือไปตาย”
ในหลายประเทศ การเกณฑ์ทหารอาจเป็นหน้าที่พลเมือง แต่ในพม่า
มันคือคำสั่งที่ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ
และหากไป นั่นหมายถึงเดินเข้าสู่ความตายแทบจะแน่นอน
ทหารใหม่ไม่ได้รับการฝึกที่ดี ไม่มีอาวุธเพียงพอ ถูกส่งไปแนวหน้าทันทีเพื่อเป็น “โล่มนุษย์” ในสงครามที่ไม่มีวันจบ
คนที่กลับมาได้แทบจะไม่มี
พ่อแม่บางคนต้องส่งลูกหนีออกจากประเทศ เพราะรู้ว่าถ้าอยู่ต่อก็มีแต่ตาย
พวกเรามองไปฝั่งไทย เห็นวัยรุ่นมีอนาคต ได้เรียน ได้ใช้ชีวิต พวกเราก็อดถามตัวเองไม่ได้ว่า “ทำไมชีวิตเราถึงต่างกันขนาดนี้”
ขอโทษจากใจและหวังว่าสักวันหนึ่งพม่าจะเปลี่ยนแปลง
พวกเราเห็นข้อความเกลียดชังที่วัยรุ่นบางคน หรือคนที่ไม่รู้เรื่องมาโพสต์หรือ คอมเม้น
โจมตีกันไปมา บางคนอาจถูกปั่นหัวให้เกลียดไทย บางคนอาจพูดเพราะอารมณ์ชั่ววูบ
แต่ทั้งหมดนี้ไม่ได้ช่วยอะไรเลย
มีแต่ทำให้เราห่างกันมากขึ้น
พวกเราขอโทษคนไทยอีกครั้ง
ขอโทษแทนคำพูดไม่ดีที่ออกมาจากคนพม่า ขอโทษแทนบางคนที่ไม่รู้ว่ากำลังทำให้สถานการณ์แย่ลง
เราไม่เคยลืมว่าประเทศไทยช่วยเหลือพม่ามาตลอด และเราซาบซึ้งในน้ำใจนั้นเสมอ
อีกครั้งความคิดเห็นที่หลายคนเห็นในโพสต์หรือคอมเมนต์ที่สร้างความขัดแย้ง จริงๆ แล้วไม่ได้สะท้อนเสียงส่วนใหญ่ของพวกเราเลย
มันเป็นเพียงเสียงของคนส่วนน้อย
คนที่อาจไม่เข้าใจสถานการณ์ทั้งหมด
หรือบางคนก็แค่ต้องการระบายอารมณ์
โดยไม่คิดถึงผลกระทบตามมา
เรื่องที่ประเทศไทยตัดไฟ ตัดอินเทอร์เน็ต
งดส่งน้ำมัน เราเข้าใจดีว่าผู้มีอำนาจฝั่งไทย
ก็ต้องแสดงให้ประชาชนของตัวเองเห็นว่ากำลังแก้ปัญหา พวกเขามีสิทธิ์ที่จะปกป้องประชาชนและทำทุกอย่างเพื่อรักษาประชาธิปไตย
ในประเทศของตัวเอง
พวกเราก็ได้แต่หวังว่าสักวันหนึ่ง เราจะมีรัฐบาลที่คิดถึงประชาชนของตัวเองแบบนั้นบ้าง
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนถึงตรงนี้
บทความนี้ถูกเขียนขึ้นจากห้องเล็กๆ
ที่มืดสนิทอยู่ตรงข้ามฝั่งพวกคุณ
เราต้องใช้ VPN เพื่อเข้าถึง Facebook เพราะรัฐบาลของเราไม่ต้องการให้พวกเรา
ได้รับข่าวสารหรือพูดคุยกับโลกภายนอก
ทุกอย่างถูกควบคุม แต่ถึงอย่างนั้น เราก็ยังอยากให้คนไทยเข้าใจว่า พวกเราไม่ได้อยากเป็นปัญหาให้ใคร และเราไม่เคยลืมว่า ประเทศไทยเคยช่วยเหลือพวกเรามากแค่ไหน
หวังว่าสักวันหนึ่ง ประเทศพม่าจะสงบ
พวกเราจะมีรัฐบาลที่เป็นของประชาชนจริง ๆ และหวังว่าวันนั้น เราจะได้เป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน อย่างที่ควรจะเป็นตั้งแต่แรก🙏🏻
#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS