ธันวา ค้าน! อย่าปิดกั้น การพัฒนาการของเด็ก ซัด! ไม่ว่าใครจะพูดเคารพนักหนา แต่ประพฤติชั่ว คดโกงชาติ
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายธันวา ไกรฤกษ์ อดีตผู้สมัคร สส.กทม. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
ในฐานะประชาชนที่รักในหลวงร.9 และพระราชินี
ผมไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของกระทรวงศึกษาธิการ โดยเฉพาะข้อ ๓ “ให้หน่วยงานในสังกัดและสถานศึกษาทุกแห่ง งดจัดงานที่มีบรรยากาศรื่นเริงทุกประเภท เป็นเวลา ๑ ปี”
คำสั่งแบบนี้มันคลุมเครือ โรงเรียนคงแทบจะไม่กล้าจัดงานอะไรเลย เด็กๆจะสูญเสียโอกาส สูญเสียความสุขจากการทำกิจกรรมหลายอย่างกับเพื่อน ปิดกั้นพัฒนาการของเด็กๆไปเลย1ปี
การที่จะแสดงออกถึงความรัก เคารพ หรืออาลัยนั้น สามารถแสดงออกได้ในหลายรูปแบบ เช่นการประพฤติตัวให้เป็นคนดี เป็นลูกที่ดี เป็นนักเรียนที่ดี เป็นนักธุรกิจที่ดี เป็นข้าราชการที่ดี เป็นนักการเมืองที่ดี เป็นรัฐมนตรีที่ดี และเป็นนายกที่ดี
แม้ว่าใครจะพูดว่าตัวเองรักและเคารพหนักหนา อาลัยหนักหนา แต่กลับประพฤติชั่ว คดโกงประเทศชาติ สร้างความเสื่อมเสียไม่เว้นวาย ก็ไม่มีประโยชน์อันใดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ตรงกันข้ามบุคคลเหล่านี้นั่นแหละที่นำความเสื่อมเสียมาสู่สถาบัน
นายกสั่งทบทวนเถอะครับ ลองจับกระแสสังคมให้ดีว่ามาตรการทำนองนี้มันมีผลบวกหรือผลลบอย่างไรต่อสถาบัน ลองไปอ่านโพสต์ของคนรักสถาบันหลายๆท่าน ที่ได้เสนอความเห็นในแนวทางการไว้อาลัยอย่างสร้างสรรค์และพอดี ว่ามันเป็นยังไง
ระวังคำสั่งบางอย่าง อาจทำให้สถาบันเสื่อมเสีย เพราะความไม่เข้าใจและความเสียหายของผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งตอนนี้เริ่มมีเสียงสะท้อนในวงกว้างแล้ว
..พระราชินีท่านวางตนประหนึ่งดอกไม้ที่สวยงามให้ประชาชนที่พบเห็นได้ชื่นใจมาทั้งชีวิต ผมเชื่อว่าท่านอยากเห็นประชาชนมีความสุขเสมอ แม้ในช่วงเวลาแห่งการไว้อาลัยพระองค์ท่านครับ
ทางด้าน ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ Nutthapong Larbboonsarp ซึ่งประกอบอาชีพในสายงานอีเวนต์ โพสต์ข้อความ ระบุว่า
ไม่ได้อยากจะพูดอะไรไม่ดี แต่ก็ควรจะต้องพูดว่าประกาศของกระทรวงศึกษาธิการที่สั่งให้โรงเรียนงดงานรื่นเริงเป็นเวลา 1 ปีนั้น เป็นประกาศที่โง่และชั่ว
ที่ว่าโง่นั้นก็คือ แทนที่กระทรวงศึกษาธิการจะใช้โอกาสนี้ให้นักเรียนได้มีความคิดสร้างสรรค์ ควบคู่ไปกับการเรียนรู้สิ่งทั้งหลายที่สมเด็จพระพันปีหลวงได้ใช้ทั้งชีวิตของท่านสร้างไว้ แต่กลับมางดกิจกรรมด้วยคำสั่งไร้สติ
เรื่องที่ท่านทำมาตลอดชีวิต และเป็นคุณค่าสากลที่โลกยกย่อง รวมถึงเป็นทักษะสำคัญของพลเมืองไทยและพลเมืองโลกในศตวรรษที่ 21 คือเรื่องสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืน (เช่น ป่ารักน้ำ) สิทธิมนุษยชน (เช่น พันธกิจของสภากาชาด การสังคมสงเคราะห์ และการเห็นคุณค่าของฝีมือชาวบ้าน) เศรษฐกิจสร้างสรรค์ (เช่น งานศิลปาชีพ) และทุนทางวัฒนธรรม (เช่น โขนและประณีตศิลป์) เด็กควรจะได้รู้จักกับสิ่งเหล่านี้ ไม่ใช่แค่จะได้รู้จักพระองค์ท่าน แต่สิ่งสำคัญยิ่งกว่านั้นคือได้เข้าใจคุณค่าของสิ่งที่ท่านสร้างไว้และเอาไปทำต่อในแบบของตัวเอง
และผมจะบอกอะไรให้ว่า พระพันปีหลวงทรงสร้างความสนุกไว้ให้เราเอาไปใช้มากมาย ลองคิดถึงกีฬาสีที่ใส่ผ้าไทยแบบจัดเต็ม ใช้ดนตรีไทยบรรเลงประกอบกับวงดุริยางค์ แค่นี้ก็สนุกแล้ว หรืองานกีฬาสี Theme สิ่งแวดล้อม ป่ารักน้ำ ฯลฯ ก็ทำได้ ยังไม่รวมงานปีใหม่ งานปลายภาค มี Theme เยอะแยะให้เราเอาไปใช้ได้ เรื่องสิ่งแวดล้อม เรื่องความยั่งยืน เรื่องนี้ต้องอยู่ในหัวใจของเด็กทุกคน
แทนที่เด็กจะได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรมสนุกและสร้างสรรค์ กลับมาถูกห้ามเพราะความตื้นเขินของผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ
ผมเป็นเด็กกิจกรรมมาทั้งชีวิต ลองคิดว่าถ้าได้โจทย์ให้ทำละครเวทีเกี่ยวกับเรื่องศิลปาชีพ หรือสิ่งแวดล้อม หรืออะไรในขอบข่ายนี้ ผมคงจะสนุกมาก และคงไปหาอ่านอะไรต่อมิอะไรมากมาย ดีไม่ดีจะหาเวลาว่างลงพื้นที่ไปคุยกับผู้คนถ้าเป็นไปได้ ผมทำแบบนี้มาตั้งแต่เป็นเด็กกิจกรรม และแน่นอนว่าผมได้เรียนรู้อะไรมากมายผ่านสิ่งที่ผมทำ
แต่เพราะเรามีคนไร้สติปัญญาขึ้นมาบริหารการศึกษา คำสั่งที่ออกมาจึงไร้สติปัญญา และทำให้ผู้เรียนไร้สติปัญญาตามไปด้วย
ถามว่าคำสั่งนี้ชั่วอย่างไร คำตอบก็คือ เด็กส่วนใหญ่ไม่ทราบหรอกว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและรัฐมนตรีช่วยชื่ออะไร อยู่พรรคไหน แต่การออกคำสั่งแบบนี้ทำให้เด็กหมดสนุก แล้วทำให้เด็กเกลียด
ไม่แน่ใจว่ากระทรวงศึกษาธิการอยากจะวางยาใครหรือเปล่า โดยอาศัยการที่เด็กจำตัวเองไม่ได้ แต่เด็กอาจจะเข้าใจไปว่าเป็นคำสั่งจากผู้มีอำนาจอื่น เป็นการ ‘ตัดคะแนน’ ในการเลือกตั้งครั้งนี้และครั้งหน้าที่จะมาถึง
ตอนแรกผมคิดว่าผมจะเขียนถึงเรื่องนี้ด้วยสำนวนเชิงบวกกว่านี้ แต่คิดว่าสำนวนเหล่านั้นไม่สามารถสะท้อนความรู้สึกและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นทั้งทางตรงทางอ้อมต่อเด็กได้
ในฐานะครูคนหนึ่ง ไม่มีอะไรสำคัญเท่ากับการเรียนรู้ของนักเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโอกาสสำคัญของชีวิต
ฉะนั้นจึงโกรธและเสียใจที่เห็นผู้บริหารการศึกษาในบ้านเมือง เหยียบย่ำสิ่งที่สมเด็จพระพันปีหลวงทรงทำมาทั้งชีวิต เพราะทรงให้ความสำคัญต่อการศึกษามาก
#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS